หากพูดถึงการทำงานของประตูรั้วอัตโนมัติแบบ AC นั้น มอเตอร์ดังกล่าวจะอาศัยการปรับความถี่ (frequency) ของแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ เพื่อปรับความเร็วในการเปิด-ปิดของประตู ทั้งนี้มอเตอร์ประตูแบบ AC สามารถส่งเเรงบิด (torque) ได้สูงกว่ามอเตอร์ DC จึงมักนำไปใช้กับประตูบานใหญ่ที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามมอเตอร์ AC อาจมีความร้อนสะสมเมื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะผู้ผลิตหลายๆ เจ้าได้คิดค้นการระบายความร้อนให้กับมอเตอร์ชนิดนี้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำมันในการระบายความร้อน หรือที่เรียกว่า เทคโนโลยี Oil Bath หรือการเพิ่มอินเวอร์เตอร์ (INVERTER) เข้าไป ซึ่งจะช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่ามอเตอร์ AC แบบทั่วไปนั่นเอง นอกจากนั้นหากพูดถึงราคา มอเตอร์ AC มักมีราคาต่ำกว่ามอเตอร์ DC เนื่องจากการทำงานที่ไม่ซับซ้อนนั่นเอง

สำหรับมอเตอร์ประตูรั้วแบบ DC ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าตรงในการทำงาน จะประหยัดพลังงานและทำงานเงียบกว่ามอเตอร์ AC จึงเกิดความร้อนสะสมระหว่างการใช้งานน้อย ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน จึงเหมาะกับสถานที่ที่มีการเข้า-ออกบ่อยครั้ง เช่น ทางเข้า-ออกหมู่บ้านโครงการ เป็นต้น นอกจากนั้นมอเตอร์ DC ยังสามารถเพิ่มแบตเตอรี่สำรองเพิ่มเติมได้ ดังนั้นหากเกิดเหตุไฟฟ้าดับ ก็ยังสามารถเปิด-ปิดประตูเพื่อเข้า-ออกในยามฉุกเฉินได้ ต่างจากมอเตอร์ AC ที่ต้องใช้กุญแจไขเพื่อปลดล็อกและเข็นประตูเองเท่านั้น มอเตอร์ DC ยังสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ละเอียดกว่ามอเตอร์ AC จึงทำให้สามารถปรับความเร็วของประตูได้ง่าย และยังปรับการชะลอความเร็ว หรือสโลว์ดาวน์ (SLOW DOWN) ได้ง่ายและแม่นยำอีกด้วย

สุดท้ายนี้ การเลือกประตูรั้วอัตโนมัติที่ใช้มอเตอร์ AC หรือ DC ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งาน โดยถึงแม้ว่ามอเตอร์ทั้งสองแบบจะมีจุดเด่นที่ต่างกัน การเลือกประตูรั้วอัตโนมัติที่มีคุณภาพสูงจากผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด PAT by B.L.T. ได้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าประตูอัตโนมัติครบทุกระบบจากทั่วโลก เพื่อตอบทุกโจทย์การใช้งานในประเทศไทย ดังนั้นหากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย